แมมเลาอ้าย แคคตัสออกดอกหน้าหนาว

แคคตัสพันธุ์ไหนออกดอกง่าย แคคตัสอะไรออกดอกหน้าหนาว วันนี้นกมาแนะนำ แมมมิลลาเรีย เลาอ้าย หรือ Mammillaria Laui ความน่าสนใจคือมีดอกที่สวยงาม ดอกหวานๆสีชมพูน่ารักๆ นอกจากดอกสวยยังเป็นแคคตัสขนสวยอีกด้วยอีกทั้ง เป็นสายพันธุ์แคคตัสให้ดอกทีละเยอะๆได้ ทั้งนี้แคคตัสจะออกดอกดียังขึ้นอยู่กับ สายพันธ์ การให้รับแดด และ การให้สารอาหารที่เหมาะสมและอย่าลืมหมั่นเปลี่ยนดินให้ปีละครั้งนะคะ 5 เทคนิคง่ายๆ วิธีเลี้ยงแคคตัสให้ออกดอก 1.เลือกสายพันธุ์ให้ถูก แคคตัสแต่ละสายพันธุ์มีระยะเวลาการออกดอกช้า เร็วแตกต่างกัน สำหรับสกุลแมมมิลลาเรีย ส่วนมากสามารถให้ดอกได้ภายใน 1.5-2 ปีค่ะ และแคคตัสบางสายพันธุ์ให้ดอกได้ตลอดปี เช่น แมมขนแมว, แมมขนนกเหลือง บางสายพันธุ์จะออกดอกเป็นฤดูกาล เช่น ฤดูร้อน หรือ ฤดูหนาว เป็นต้น 2.ให้แดดอย่างเพียงพอ ปัจจัยสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งคือแสงแดด เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดของการออกดอก ควรให้แคคตัสได้รับแสงแดด 5-6 ชั่วโมงต่อวันขึ้นไป ยิ่งนานยิ่งดี แนะนำเป็นแดดที่ลดแสงลงด้วยตาข่ายลดแสง (สแลน 50-60%) เพื่อป้องกันการไหม้แดด 3.หมั่นเปลี่ยนดินทุก 1-2 ปี เพื่อให้แคคตัสได้รับอาหารใหม่ๆ เสมอ 4.ให้ปุ๋ยบ้าง เช่น

แมมขนนกขาวดอกชมพู แคคตัสออกดอกหน้าหนาว

แคคตัสพันธุ์ไหนออกดอกง่าย แคคตัสอะไรออกดอกหน้าหนาว วันนี้นกมาแนะนำ แมมมิลลาเรีย พลูโมซ่าหรือ Mammillaria Plumosa ความน่าสนใจคือมีดอกที่สวยงาม ดอกหวานๆสีชมพูน่ารักๆ นอกจากดอกสวยยังเป็นแคคตัสขนสวยอีกด้วยอีกทั้ง เป็นสายพันธุ์แคคตัสให้ดอกทีละเยอะๆได้ ทั้งนี้แคคตัสจะออกดอกดียังขึ้นอยู่กับ สายพันธ์ การให้รับแดด และ การให้สารอาหารที่เหมาะสมและอย่าลืมหมั่นเปลี่ยนดินให้ปีละครั้งนะคะ 5 เทคนิคง่ายๆ วิธีเลี้ยงแคคตัสให้ออกดอก 1.เลือกสายพันธุ์ให้ถูก แคคตัสแต่ละสายพันธุ์มีระยะเวลาการออกดอกช้า เร็วแตกต่างกัน สำหรับสกุลแมมมิลลาเรีย ส่วนมากสามารถให้ดอกได้ภายใน 1.5-2 ปีค่ะ และแคคตัสบางสายพันธุ์ให้ดอกได้ตลอดปี เช่น แมมขนแมว, แมมขนนกเหลือง บางสายพันธุ์จะออกดอกเป็นฤดูกาล เช่น ฤดูร้อน หรือ ฤดูหนาว เป็นต้น 2.ให้แดดอย่างเพียงพอ ปัจจัยสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งคือแสงแดด เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดของการออกดอก ควรให้แคคตัสได้รับแสงแดด 5-6 ชั่วโมงต่อวันขึ้นไป ยิ่งนานยิ่งดี แนะนำเป็นแดดที่ลดแสงลงด้วยตาข่ายลดแสง (สแลน 50-60%) เพื่อป้องกันการไหม้แดด 3.หมั่นเปลี่ยนดินทุก 1-2 ปี เพื่อให้แคคตัสได้รับอาหารใหม่ๆ เสมอ 4.ให้ปุ๋ยบ้าง เช่น ปุ๋ยละลายช้าทุกๆ

มาทำแคคตัสประดับบ้านสวยๆ ด้วยกระถางกรูท ง่ายๆกัน

สำหรับผู้เลี้ยงแคคตัส นอกจากต้นไม้สวยๆแล้ว อีกสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสุข ความเพลิดเพลินคือ การปลูกเลี้ยงในกระถางสวยๆ กระถางแปลกๆ เพื่อใช้ประดับมุมบ้านให้สวยๆและน่ามอง วันนี้ผู้เขียนนำไอเดียกระถางกรูท มาฝากผู้ที่ชื่นชอบในแคคตัสทุกๆคนค่ะ แคคตัสที่เหมาะกับ กระถางกรูท วันนี้ผู้เขียนใช้สายพันธุ์ อิชินอปซิส คาเมซีรีอุส (Echinopsis Chamaecereus) เนื่องจากการเติบโตเป็นไม้เลื้อย เมื่อนำมาเข้ากับ กระถางกรูท ก็ดูเข้ากันดีเป็นอย่างมาก (สามารถใช้แคคตัสหรือไม้อวบน้ำสายพันธุ์อื่นๆได้ค่ะ เช่น เก๋งจีน ริบบิ้นชาลี หางลิง หางกระรอก เป็นต้น) วิธีเปลี่ยนมาใช้กระถางกรูท 1.แคคตัสที่แนะนำเช่น อิชินอปซิส คาเมเซเรอุส, เก๋งจีน, ริบบิ้นชาลี อื่นๆ 2.นำแคคตัสออกจากกระถาง 3.รองก้นกระถางด้วยกาบมะพร้าวสับ หรือ หินภูเขาไฟ 4.ใส่ดินปลูกแคคตัส 5.โรยปุ๋ยละลายช้าเล็กน้อย ให้เป็นอาหาร 6.นำแคคตัสลงปลูก อย่าลืมสวมถุงมือด้วยนะคะ 7.ใส่ดินรอบๆโคนต้น 8.ช่วงลงปลูกใหม่รดน้ำน้อยๆก่อนนะคะ ถ้ารดมากไป ต้นอาจจะเน่าเสียก่อน 9.ตั้งวางในที่แดดส่องถึง เพราะแคคตัสเป็นพืชชอบแดด หากขาดแดด ต้นจะยืด โตช้าค่ะ ง่ายมากๆ ทำได้ทุกๆคน ได้แคคตัสสวยๆ

อิชินอปซิส คาเมซีรีอุส (Echinopsis chamaecereus)

อิชินอปซิส คาเมซีรีอุส  หรือ Peanut Cactus เป็นแคคตัสในสกุล อิชินอปซิสแคคตัส ลักษณะลำต้นเหมือนกับนิ้วมือจำนวนมาก เป็นสายพันธุ์แคคตัสที่เติบโตเป็นไม้เลื้อย ให้ดอกสีส้ม-แดง มีถิ่นกำเนิดในประเทศอาเจนติน่า และเป็นหนึ่งในแคคตัสที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีหนามขนาดเล็กจำนวนมากและสามารถทิ่มมือได้ ดังนั้นหากจะจับเพื่อขยายพันธุ์หรือเปลี่ยนกระถาง ควรสวมถุงมือเพื่อป้องกันหนาม และสามารถแตกหน่อได้ง่าย หน่อหลุดง่าย (แต่สามารถเอาไปปักชำได้) ขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่งหรือลำต้น ทำได้ง่ายๆแค่ถอนกิ่งหรือลำต้นไปวางในดินปลูกแคคตัส เนื่องจากลักษณะของเจ้าอิชินอปซิส คาเมซีรีอุส เติบโตเป็นไม้เลื้อย จึงเหมาะที่จำนำไปทำเป็นไม้แขวน ให้ห้อยระย้า ดูสวยงามแปลกตา ยิ่งเวลาออกดอกจะยิ่งสวยมากๆ  เป็นแคคตัสที่ดูแลไม่ยาก ศัตรูพืชที่พบได้บ่อยในบ้านเราคือ เพลี้ยหอย แนะนำให้หมั่นโรยยาสตาร์เกิล จี เป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเพลี้ยหอยค่ะ การเลี้ยงดูแล อิชินอปซิส คาเมซีรีอุส ควรได้รับแดดสัก 6-8 ชั่วโมง ยิ่งมากยิ่งดี ควรเลี้ยงในโรงเรือนใสกรองแสงลงสัก 50% ด้วยสแลนลดแสงลง อาจเริ่มจากโรงเรือนสำเร็จรูปหลังเล็กๆ สะดวก ราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย ไม่ควรเลี้ยงในที่ร่มมากหรือในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น เพราะแสงแดดไม่พอ ทำให้แคคตัสเจ็บป่วยเป็นโรคได้ง่าย ต้นไม่ออกดอก และไม่เติบโตเท่าที่ควร วิธีเลี้ยงดูแลอิชินอปซิส

ตลับเงิน-ตลับทอง แคคตัสชื่อมงคล ดอกสวย

อีกหนึ่งแคคตัสชื่อดี เป็นมงคล ต้นสวย หนามสวย ดอกสวย ตลับเงิน–ตลับทองแคคตัส ต้นตลับเงินแคคตัส หรือ Parodia haselbergii ให้ดอกเป็นสีส้ม และ บางต้นให้ดอกเป็นสีแดงได้ ส่วน ต้นตลับทองแคคตัส หรือ Parodia haselbergii ssp. graessneri เป็นสปีชีส์ย่อยอีกทีของต้นตลับเงิน นั่นเลยเป็นที่มาของความคล้าย ทั้งรูปทรง และ ทรงดอก จัดเป็นแคคตัสออกดอกได้นาน ดอกอาจบานได้ถึง 1-2 อาทิตย์ ไม่แตกกอ นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด วิธีการเลี้ยงดูแล ตลับเงิน ตลับทองแคคตัส1.ให้ได้รับแสงแแดดอย่างเพียงพออย่างน้อย 5- 8 ชั่วโมงต่อวัน และไม่ควรเป็นแดดจัดๆโดยตรง ควรพรางแสงด้วยตาข่ายลดแสง แดดที่เพียงพอจะช่วยให้แคคตัสเติบโตได้เร็ว โรคและแมลงรบกวนน้อย ต้นแข็งแรง2.รดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท หรือ ทุก 5-7 วันครั้ง ไม่ควรรดน้ำบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้แคคตัสเกิดอาการรากเน่าได้ง่าย3.ให้ปุ๋ยละลายช้าทุก 4-6 เดือน4.เปลี่ยนดินสม่ำเสมอ ทุก 1-2 ปี เพื่อให้แคคตัสได้รับสารอาหารใหม่ๆ หากต้นเบียดกระถางจนแน่น

คู่มือเลี้ยง เรนโบว์แคคตัส (Echinocereus Rigidissimus)

เรนโบว์แคคตัส หรือ แคคตัสสายรุ้ง แคคตัสสกุล อิชิโนเซเรอุส เป็นหนึ่งในแคคตัสสุดสวยขวัญใจของใครหลายๆคน ด้วยลักษณะของขนหนามที่มีความสวยโดดเด่น ขนหนามออกเป็นสีชมพูม่วงแดง อย่างไรก็ตามเป็นอีกหนึ่งแคคตัสที่เลี้ยงไม่ง่ายสักเท่าไหร่ เพราะค่อนข้างไวต่อความชื้นมาก เน่าง่าย ตายง่าย เวลาต้นเน่าตายจะยังคงเปลือกขนหนามสวยๆไว้ แต่แม้จะเลี้ยงยากสักหน่อย ยามเมื่อเค้าเติบโตขึ้นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแคคตัสที่สวยงามที่สุด อีกทั้งยังสามารถให้ดอกที่มีสีสันสวยงาม ดอกเป็นสีชมพูม่วงเข้ม ดอกมีขนาดใหญ่ได้ถึง 6-10 ซม. เรียกได้ว่าเป็นแคคตัสที่มีความสวยทั้งต้น ทั้งดอกเลยก็ว่าได้ การเลี้ยงดูแลแบบพิเศษ อย่างที่กล่าวไปว่า เป็นแคคตัสเน่าง่าย ไวต่อความชื้น เรื่องการให้รับแดดมากๆจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เรนโบว์แคคตัส ควรได้รับแดดสัก 6-8 ชั่วโมง ยิ่งมากยิ่งดี ควรเลี้ยงในโรงเรือนใสกรองแสงลงสัก 50% ด้วยสแลนลดแสงลง อาจเริ่มจากโรงเรือนสำเร็จรูปหลังเล็กๆ สะดวก ราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย ไม่ควรเลี้ยงในที่ร่มมากหรือในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น เพราะแสงแดดไม่พอ ทำให้แคคตัสเจ็บป่วยเป็นโรคได้ง่าย ต้นไม่ออกดอก และไม่เติบโตเท่าที่ควร วิธีเลี้ยงดูแลเรนโบว์แคคตัสแบบละเอียดมีดังนี้ค่ะ 1.แดดสำหรับแคคตัส จัดเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดถ้าหากอยากให้แคคตัสของเราสวยงาม เติบโตเร็ว และออกดอกได้สมวัย แคคตัสควรได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน การเลี้ยงแคคตัสในสถานที่ไม่มีแสงแดด

สูตรดินแคคตัส การเลี้ยงแคคตัส มือใหม่

การเลี้ยงแคคตัสมือใหม่ ดินปลูกแคคตัสถือเป็นวัสดุ อุปกรณ์จำเป็นที่จะขาดไม่ได้ชนิดหนึ่ง ดินปลูกแคคตัสที่ดีควรมีคุณสมบัติที่ระบายน้ำได้เร็วแต่ยังอุ้มความชื้นได้บ้าง หากมีแต่วัสดุระบายน้ำอย่างเดียว แคคตัสดูดน้ำไม่ทัน อาจทำให้ไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร ในทางตรงกันข้ามถ้าระบายน้ำช้าไป ก็อาจก่อให้เกิดปัญหารากเน่า ดังนั้นสูตรดินแคคตัสทุกสูตรจึงจำเป็นต้องยึดคอนเซป ระบายน้ำเร็วแต่ยะงพออุ้มความชื้นที่เหมาะสม วันนี้ผู้เขียนจะมาแชร์ปนะสบการณ์และแนะนำให้รู้จักวัสดุผสมดินปลูกแคคตัส เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ ทำสูตรดินแคคตัส ได้ด้วยตนเอง สูตรดินแคคตัสไม่ตายตัว เราสามารถประบเปลี่ยน เพิ่ม ลด ส่วนผสมได้ตามใจต้องการ ดีที่สุดคือการหมั่นสังเกตแคคตัสที่บ้านว่า เจริญเติบโตได้ดีกับ สูตรดินปลูกแคคตัส แบบใด สูตรดินแคคตัสโดยทั่วไปจะมีส่วนผสมที่จำเป็น โดยทำหน้าที่ต่างๆกันดังนี้ 1.กลุ่มทำหน้าที่ให้โปร่ง ระบายน้ำได้เร็ว วัสดุเหล่านี้จะทำหน้าที่ช่วยให้น้ำระบายออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ชื้นแฉะเป็นเวลานานๆ ยกตัวอย่างเช่น ทรายแม่น้ำ (ทรายก่อสร้างแบบหยาบ), หินภูเขาไฟ, เพอร์ไรท์, กรวด, ถ่านทุบ, แกลบดิบ, แกลบเผา, กาบมะพร้าวสับ เป็นต้น วัสดุเหล่านี้มีธาตุอาหารน้อยหรือไม่มีเลย 2.กลุ่มที่ทำหน้าที่เป็นตัวจับความชื้น วัสดุปลูกกลุ่มนี้จะมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี แต่ข้อควรระวังคืออย่าใส่ในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจทำให้ดินอุ้มความชื้นนานเกินไป ทำให้เกิดปัญหารากเน่าตามมา ยกตัวอย่างเช่น พีทมอส, ขุยมะพร้าว เป็นต้น 3.กลุ่มวัสดุทำหน้าที่ให้สารอาหาร วัสดุปลูกกลุ่มนี้จะทำหน้าที่ให้สารอาหาร โดยมากเป็นพวกอินทรีย์ เช่น

คู่มือเลี้ยงอิรุซามุแคคตัส Mammillaria Erusamu

อิรุซามุแคคตัส หรือ แมมมิลลาเรียอิรุซามุ หรือ แมมปุยหิมะ (Mammillaria bucareliensis cv. erusamu) เป็นแคคตัสในสกุลแมมมิลลาเรีย ที่มีความโดดเด่นเรื่องหนามน้อย มีปุยสีขาวคล้ายหิมะ มีตุ่มหนามขนาดใหญ่ ให้ดอกสีชมพูสวยงาม เป็นแคคตัสต้นโปรดอีกหนึ่งต้นของใครหลายๆคน การเลี้ยงดูแลเป็นพิเศษต้องระวังเรื่องการไหม้แดด เพราะเป็นสายพันธุ์ขนหนามน้อย หากออกแดดกะทันหันต้นอาจไหม้เสียโฉมได้ ควรกรองแสงเพื่อลดความเข้มแสงลงด้วยตาข่ายลดแสง(สแลน) ข้อสังเกตอีกอย่างคือ มักมีริ้วรอยบริเวณโคนต้น เป็นปกติของสายพันธุ์นี้ โดยเฉพาะหากเลี้ยงแดดน้อยจะเป็นรอยมากกว่าการเลี้ยงแดดมาก แต่ไม่ต้องตกใจค่ะรอยนี้ไม่ใช่โรค แคคตัสยังสามารถเติบโต ออกดอกได้ปกติ สามารถลดโอกาสเกิด ป้องกันได้ด้วยการให้แดดมากๆและโรยหินแม่น้ำหนาๆสักหน่อยค่ะ วันนี้จะขอแนะนำวิธีการเลี้ยงดูแลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่เพิ่งหัดเลี้ยงแคคตัสนะคะ 1.แดดสำหรับแคคตัส จัดเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดถ้าหากอยากให้แคคตัสของเราสวยงาม เติบโตเร็ว และออกดอกได้สมวัย แคคตัสควรได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน การเลี้ยงแคคตัสในสถานที่ไม่มีแสงแดด เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือ ที่มีแสงแดดส่องถึงน้อย จะทำให้แคคตัสยืด เสียทรง เติบโตช้า และไม่ออกดอก แนะนำให้มีโรงเรือน จะเป็นโรงเรือนทำเอง หรือ โรงเรือนแคคตัสสำเร็จรูป ก็ได้ ตำแหน่งการตั้งวางโรงเรือน ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่บัง

10 อุปกรณ์ปลูกแคคตัส สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง

การเลี้ยงแคคตัสมือใหม่ จะมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้อะไรบ้าง เพื่อให้การเลี้ยงแคคตัสเป็นไปได้อย่างราบรื่น ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า อุปกรณ์ปลูกแคคตัสมีมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้พึงพอใจ มีงบประมาณ การใช้งาน ขนาดไหน ในบทความนี้จะขอแชร์เฉพาะอุปกรณ์ที่จำเป็นจริงๆที่ควรมี ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เริ่มต้นหัดเลี้ยงได้ทำงานได้ง่ายขึ้น 1.ดินปลูกแคคตัส ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกๆที่ผู้เขียนอยากแนะนำ ความพิเศษของดินปลูกแคคตัสคือ จะเป็นดินที่ระบายน้ำได้เร็ว(ไม่ใช่ระบายน้ำดี) แต่ยังคงอุ้มความชื้นได้ในระดับหนึ่ง เพื่อให้แคคตัสสามารถนำน้ำไปใช้ได้ทัน ดินปลูกต้นไม้ทั่วไปยังระบายน้ำไม่เร็วพอ ถึงแม้ว่าจะพอใช้ปลูกแคคตัสบางสายพันธุ์ได้ แต่การควบคุมความชื้นทำได้ยากกว่า ผู้เขียนเลยไม่ขอแนะนำค่ะ ส่วนการใช้ทรายล้วนๆในการปลูกแคคตัส ก็เป็นความเข้าใจผิด เพราะในทรายไม่มีอาหารหรือแร่ธาตุที่เพียงพอ ทำให้แคคตัสไม่เติบโตหรือโตไม่ได้ ดินปลูกแคคตัสเราสามารถผสมเองก็ได้ ปัจจุบันมีแหล่งซื้อขายวัสดุผสมดินปลูกแคคตัสออนไลน์ ที่ช่วยให้ผู้ซื้อไม่ต้องอออกไปซื้อเอง หรือ เอาแบบง่ายๆที่สุดคือ ซื้อดินปลูกแคคตัสแบบสำเร็จมาใช้เลยก็ได้ เพราะแม้สูตรดินแต่ละร้านหรือแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่ยังคงคอนเซปเดิมคือ ระบายน้ำได้เร็วและอุ้มความชื้นที่เหมาะสมให้แคคตัสได้บ้าง 2.กระถางปลูกแคคตัส ถือเป็นอุปกรณ์ปลูกแคคตัสที่สำคัญ กระถางปลูกแคคตัสที่ดีควรมีขนาดพอดีๆ ไม่ใหญ่มากไป หรือ เล็กเกินไป ควรเหลือขอบเพื่อให้แคคตัสได้เติบโตเล็กน้อยราวๆ 2-3 ซม. ไม่ควรใช้กระถางเผื่อมาก เพราะจะทำให้วัสดุปลูกแคคตัสมีมากไป แคคตัสดูดน้ำไม่ทัน อาจเกิดอาหารรากเน่าได้ง่าย กระถางปลูกแคคตัสที่ใช้สามารถใช้ได้ทั้ง กระถางพลาสติก, กระถางดินเผา, หรือ กระถางเซรามิก ผู้เขียนขอแนะนำเป็นกระถางพลาสติก เพราะมีราคาไม่แพง เก็บความชื้นได้ดีกว่ากระถางดินเผา

ยิมโนไม้จิ้มฟัน

ยิมโนไม้จิ้มฟัน หรือ ยิมโนคาไลเซียม ยูรีพลูรัม (Gymnocalycium eurypleurum) เป็นแคคตัสในสกุลยิมโนคาไลเซียม มีความสวยและน่าสนใจตรงที่หนาม โดยมีหนามยาว สมมาตรกัน ยื่นออกมา มองดูเหมือนไม้จิ้มฟัน เลยเป็นที่มาของชื่อเล่นที่คนไทยเราเรียกกัน อีกทั้งลักษณะของลำต้นเป็นแบบกลม ยิ่งดูเข้ากันดี ใครที่กำลังตามหา แคคตัสหนามสวยๆ นกขอแนะนำ ยิมโนไม้จิ้มฟันต้นนี้อีกหนึ่งต้นค่ะ เห็นแค่หนามกับต้นก็สวยแล้ว การให้ดอก จะออกดอกเป็นสีขาวมีสีม่วงชมพูแซม ไปจนถึงดอกสีชมพูอ่อนๆ เป็นแคคตัสที่โดยธรรมชาติมักไม่แตกกอ นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดค่ะ การเลี้ยงดูแลไม่ยาก เพราะมีระกับความทนทานพอๆสายพันธุ์ยิมโนคาไลเซียมอื่นๆค่ะ วิธีดูแล ยิมโนไม้จิ้มฟัน 1.ให้แดดอย่างเพียงพอ ปัจจัยสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งคือแสงแดด เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดของการออกดอกและการเจริญเติบโต ควรให้แคคตัสได้รับแสงแดด 5-6 ชั่วโมงต่อวันขึ้นไป ยิ่งนานยิ่งดี แนะนำเป็นแดดที่ลดแสงลงด้วยตาข่ายลดแสง (สแลน 50-60%) เพื่อป้องกันการไหม้แดด 2.หมั่นเปลี่ยนดินทุก 1-2 ปี เพื่อให้แคคตัสได้รับอาหารใหม่ๆ เสมอ 3.ให้ปุ๋ยบ้าง เช่น ปุ๋ยละลายช้าทุกๆ 4-6 เดือนครั้ง ในปริมาณเล็กน้อย 4.รดน้ำแคคตัสอย่างเหมาะสม ไม่น้อยไป ไม่มากไป หากน้อยไป